top of page

3 ผลไม้ที่เหมาะกับผู้สูงอายุ

ในช่วงชีวิตของผู้สูงอายุ การบำรุงสุขภาพและการทานอาหารที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี ในเชิงโภชนาการผู้สูงอายุสามารถทานผลไม้หลากหลายชนิดที่เสริมสร้างความสมดุลในอาหารได้ บางชนิดมีประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้สูงอายุ มีดังนี้



1. แอปเปิ้ล








สารต้านอนุมูลอิสระ : แอปเปิ้ลเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ เช่น วิตามิน C และสารชีวภาพสูงอื่นๆ ที่ช่วยปกป้องร่างกายจากอันตรายของอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพเซลล์

สุขภาพหัวใจ : การบริโภคแอปเปิ้ลเป็นส่วนหนึ่งของช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ การบริโภคแอปเปิ้ลและผลไม้อื่นๆ ที่มีรสชาติหวานธรรมชาติช่วยลดความตึงเครียดและความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย

ใยอาหาร : แอปเปิ้ลเป็นแหล่งของใยอาหารที่สามารถช่วยเพิ่มความอิ่ม ใยอาหารช่วยเร่งกระบวนการย่อยอาหารและบำรุงสุขภาพระบบทางเดินอาหาร

ประโยชน์ของแอปเปิ้ลแดง

1.สารออกซิแดนที่สูง: Envy apple เป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิส เช่น แอนติออกซิแดนต่าง ๆ ที่ช่วยปกป้องร่างกายจากความเสี่ยงต่ออนุมูลอิสและโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและโรคมะเร็ง

2.วิตามิน C: Envy apple เป็นแหล่งวิตามิน C ที่มีคุณสมบัติสำคัญสำหรับภูมิคุ้มกันร่างกาย วิตามิน C เสริมสร้างระบบ3ภูมิคุ้มกันและช่วยในกระบวนการหายใจของเซลล์

3.ไฟเบอร์อาหาร: Envy apple มีปริมาณไฟเบอร์อาหารสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นกระบวนการย่อยอาหารและลดความหิวอย่างที่เห็นได้ชัด และสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักด้วย


2. ส้ม








เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน : ส้มเป็นแหล่งของวิตามินซีที่สำคัญ ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

บำรุงผิวพรรณ : ส้มมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดอาการอักเสบในผิวหนังและส่วนที่เกี่ยวข้อง

สมดุลย์ระดับน้ำตาลในเลือด : ส้มเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลธรรมชาติและใยอาหารสูง การบริโภคส้มอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง

ประโยชน์ของส้ม

1.วิตามิน C: เป็นแหล่งวิตามิน C ที่สำคัญ วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีบทบาทในการรักษาผิวหน้าสวยงาม และสุขภาพเหมือนปกติ นอกจากนี้ วิตามิน C ยังมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ผิวหน้าและเส้นผมมีความแข็งแรง

2.ระบบทางเดินอาหาร: มีใยอาหารที่สามารถช่วยเพิ่มความเรียบร้อยในระบบทางเดินอาหาร ลดความหิวและช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร

3.ระบบประสาท: เป็นแหล่งวิตามิน B ที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทในรักษาสุขภาพระบบประสาท ช่วยให้ระบบประสาททำงานอย่างเหมาะสม และช่วยลดความเครียดและวิตามิน B ยังมีบทบาทในการสร้างเซราโทนิน ซึ่งมีผลในการสร้างกรดอะมิโนที่ช่วยสร้างสารสื่อประสาท


3. กีวี่








ประโยชน์ของกีวี่

1.ควบคุมน้ำหนัก: ผลไม้กีวี่มีพลังงานต่ำและมีใยอาหารมาก เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือลดความอ้วน

2.สามารถรับประทานเป็นอาหารว่าง: ผลไม้กีวี่มีรสหวานฉ่ำและสดชื่น ทำให้เป็นอาหารว่างที่ดีที่สามารถรับประทานในช่วงเวลาเช้าหรือบ่าย

3.ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด: ผลไม้กีวี่อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน

4.สร้างความรู้สึกสดชื่น: รสชาติหวานและน้ำหอมของผลไม้กีวี่ช่วยสร้างความรู้สึกสดชื่นและมีความสุขในการรับประทานอาหาร


ผลไม้ที่ผู้อายุมีโรคประจำตัวควรระวัง ?

ผลไม้ที่ผู้สูงอายุ โรคไต ไม่ควรทาน

ผู้สูงอายุที่เป็นโรคไตควรเลือกผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียม (potassium) ต่ำเนื่องจากโพแทสเซียมสามารถเพิ่มการทำงานของไตได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภคผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูงต่อวัน  

1.กล้วย 1 ผล มีปริมาณโพแทสเซียม 128-400 มิลลิกรัม

2.มะม่วงสุก 1 ผล มีปริมาณโพแทสเซียม 600 มิลลิกรัม

3.มะละกอสุก 5-6ชิ้น มีปริมาณโพแทสเซียม 220-300 มิลลิกรัม

4.แก้วมังกร1 ผล มีปริมาณโพแทสเซียม 800 มิลลิกรัม

5.ทุเรียน 1 เม็ด มีปริมาณโพแทสเซียม 250-470 มิลลิกรัม

6.ขนุน4-5เม็ด มีปริมาณโพแทสเซียม 450 มิลลิกรัม

 

ผลไม้ที่ผู้สูงอายุ โรคเบาหวาน ไม่ควรทาน

ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานควรเลือกผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) น้อยเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภคผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ดังต่อไปนี้

1.กล้วยหอม 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 20.6 กรัม

2.ทุเรียนหมอนทอง 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 21.3 กรัม

3.องุ่น 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 16 กรัม

4.มะม่วงสุก 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 22 กรัม

5.เงาะ 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 18 กรัม

6.ขนุน 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 22 กรัม

7.มังคุด 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 17 กรัม

8.อินทผลัม 100 กรัม มีปริมาณ น้ำตาล 85 กรัม

 

สรุป

ปริมาณผลไม้ที่ผู้สูงอายุควรทานต่อวัน

ตามธงโภชนาการและแนวทางการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพของคนไทย ผู้สูงอายุควรรับปริมาณผลไม้วันละ 4 ส่วน เพื่อให้ได้รับพลังงานและสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย

แนะนำว่าผลไม้ 1 ส่วนหมายถึงปริมาณของผลไม้ที่ให้คาร์โบไซเดรต 15 กรัม หรือประมาณ 60 กิโลแคลอรี่ อย่างไรก็ตามปริมาณของผลไม้ในแต่ละส่วนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้ เนื่องจากผลไม้แต่ละชนิดมีปริมาณคาร์โบไฮเครตไม่เท่ากัน

ตามทั่วไปแล้ว 1 ส่วนของผลไม้ สามารถประมาณได้ดังนี้:

1 ส่วนของผลไม้สด (เช่น แอปเปิ้ลหรือส้ม) ประมาณเท่ากับ 1 ผล

1 ส่วนของผลไม้เนื้อเดียว (เช่น กล้วยหรือมะละกอ) ประมาณเท่ากับ 1 ลูก

1 ส่วนของผลไม้ที่สับสน (เช่น สับปะรดหรือมะม่วง) ประมาณเท่ากับ 1 ถ้วยขนาดเล็ก

1 ส่วนของผลไม้ที่หั่นแล้ว (เช่น สตรอเบอร์รี่หรือองุ่น) ประมาณเท่ากับ 1 ถ้วยขนาดเล็ก


 

"คลินิกกายภาพเซ็นจูรี่แคร์ พร้อมดูแลด้วยจุดมุ่งหมายให้ผู้เข้ารับบริการกลับไปใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงปกติให้ได้มากที่สุด"

Century Care Center ยินดีให้คำปรึกษา



โทร : 095-713-2222

Line : @centurycare

การเดินทาง :https://goo.gl/maps/hb2a7MTEPeEaDTpTA

Comments


bottom of page